บาเยิร์นเล็ง “นาธาน เด คาอัต” มิดฟิลด์ดาวรุ่งอันเดอร์เลชท์ วัย 17 ปี เสริมอนาคตระยะยาว
บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา กำลังให้ความสนใจอย่างจริงจังในตัว นาธาน เด คาอัต (Nathan De Kaat) มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัยเพียง 17 ปีของอันเดอร์เลชท์ หลังได้รับรายงานจากทีมแมวมองว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะเยาวชนที่มีศักยภาพโดดเด่นที่สุดของเบลเยียมในเวลานี้
เด คาอัต เติบโตจากระบบเยาวชนของอันเดอร์เลชท์ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ก่อนพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกในเดือนตุลาคม 2023 จากนั้นเขาถูกส่งลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ในศึกยูโรปาลีก รอบน็อกเอาต์ พบเฟเนร์บาห์เช่ เมื่ออายุเพียง 16 ปี 7 เดือน ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับโอกาสเร็วที่สุดของสโมสรในรอบหลายปี
■ ทำไมบาเยิร์นถึงให้ความสนใจ?
เด คาอัตเป็นมิดฟิลด์ที่โดดเด่นทั้งเกมรุกและเกมรับ มีจุดเด่นในเรื่องการจ่ายบอลแม่นยำ การอ่านเกมที่เหนือวัย และการครองบอลภายใต้ความกดดัน นอกจากนี้ยังมีวิสัยทัศน์การเล่นที่ทำให้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับมิดฟิลด์ระดับท็อปของยุโรปหลายคน
แมวมองของบาเยิร์นรายงานว่า “เขาเล่นเหมือนผู้ใหญ่ในร่างวัยรุ่น” และเข้ากับสไตล์ฟุตบอลสมัยใหม่ที่ต้องการมิดฟิลด์ครบเครื่อง ซึ่งทำให้บาเยิร์นเริ่มเดินหน้าเก็บข้อมูลอย่างละเอียดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
■ แผนเสริมทัพและคู่แข่งในตลาด
จากข้อมูลภายในสโมสร ผู้บริหารอย่าง มักซ์ เอเบิร์ล และ คริสโตฟ ฟรอยด์ สนใจในโครงการสร้างทีมด้วยนักเตะวัยรุ่นที่มีเพดานสูง ซึ่งเด คาอัตถือว่าเข้ากรอบแบบสมบูรณ์แบบ บาเยิร์นจึงอาจเริ่มเจรจาล่วงหน้าเพื่อรอคว้าตัวเขาหลังอายุครบ 18 ปีเต็มตามกฎการย้ายทีมของฟีฟ่า
อย่างไรก็ตาม ดีลนี้อาจไม่ง่าย เพราะมีทีมอื่นในเยอรมนีอย่าง ดอร์ทมุนด์ และ เลเวอร์คูเซ่น รวมถึงอีกหลายสโมสรในยุโรปที่ติดตามฟอร์มของแข้งรายนี้อย่างใกล้ชิด ทำให้บาเยิร์นอาจต้องเร่งดำเนินการเพื่อไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่ง
■ ผลกระทบต่ออนาคตของบาเยิร์น
การคว้าตัวดาวรุ่งระดับนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แผนพัฒนาทีมในระยะยาวของบาเยิร์น โดยเฉพาะในตำแหน่งมิดฟิลด์ที่เริ่มมีปัญหาอายุผู้เล่นหลักเพิ่มขึ้น อีกทั้งเด คาอัตยังสามารถเป็นตัวหลักในยุคใหม่ของสโมสร พร้อมเติบโตจากระบบเยาวชนไปสู่ทีมชุดใหญ่แบบต่อเนื่อง
หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง นี่จะเป็นหนึ่งในสัญญาณชัดเจนว่า บาเยิร์นกำลังกลับมาทุ่มเทกับการล่าดาวรุ่งพรสวรรค์สูงอีกครั้ง เพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่งในระยะยาวและสามารถแข่งขันกับมหาอำนาจยุโรปได้ต่อเนื่องในทศวรรษหน้า
