หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ย้ำความสำคัญของความร่วมมือระหว่างทีมชาติและสโมสร
หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ โค้ชทีมชาติสเปน ออกโรงชี้ถึงความสำคัญของการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างทีมชาติและสโมสร หลังจากที่ดาวรุ่งอย่าง ลามีน ยามาล ถอนตัวจากทีมชาติเนื่องจากสโมสรเก่าอย่าง บาร์เซโลน่า ส่งสัญญาณเข้ามาเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบ
เขาเปิดเผยว่า สิ่งที่เป็นกุญแจแห่งความสำเร็จในความสัมพันธ์ระหว่างทีมชาติและสโมสร คือ “การพูดคุย, ข้อมูล และการอำนวยความสะดวก” ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจสถานะของผู้เล่น รู้ถึงแผนการฟื้นฟู และร่วมกันกำหนดจังหวะการใช้งานอย่างเหมาะสม
สำหรับเด ลา ฟวนเต้ นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องของโค้ชหรือผู้จัดการทีม แต่คือเรื่องโครงสร้างระดับสูง: ระบบสโมสร ระบบสมาคมฟุตบอล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันสร้าง “อัตลักษณ์ทีมชาติ” ที่ผู้เล่นรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และไม่เกิดช่องว่างระหว่างภาคสนามของทีมชาติและภาคสนามสโมสร
ในมุมมองของเขา ความสัมพันธ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะมันสะท้อนถึงความต่อเนื่องของอาชีพนักเตะ ผู้เล่นที่ถูกจัดการดีจะรู้สึกมั่นใจทั้งในสีเสื้อสโมสรและทีมชาติ ซึ่งส่งผลทั้งต่อฟอร์มในสนามและสภาพจิตใจ
อีกด้านหนึ่ง เขายังบอกว่า ถึงแม้การติดต่อระหว่างสโมสรและโค้ชทีมชาติอาจไม่จำเป็นทุกวัน แต่เมื่อมีเรื่องสำคัญ เช่น อาการบาดเจ็บรุนแรง หรือโปรแกรมโฟกัสทีมชาติ การสื่อสารส่วนตัวควรเกิดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือแรงกดดันที่ไม่จำเป็น
โดยสรุป เด ลา ฟวนเต้ กำลังส่งสัญญาณถึงวงการฟุตบอลว่า เราอยู่ในยุคที่ “ผู้เล่นคือสินทรัพย์ร่วม” ระหว่างสองระบบใหญ่ (สโมสรและทีมชาติ) และหากทั้งสองฝ่ายไม่เดินไปด้วยกัน จะเกิดช่องว่างที่ส่งผลทางลบต่อผู้เล่นและภาพรวมวงการ
